กติกาไก่ชน

เริ่มต้นกันที่กติกาในกีฬาชนไก่ ปกติแล้วจะใช้กติกาเดียวกับบ่อนไก่ชนทั่ว ๆ ไป เพื่อให้มีความโปร่งใสและได้มาตรฐานเดียวกัน โดยกติกาที่ว่ามีดังนี้

1. ก่อนแข่งขันเจ้าของไก่จะต้องนำไก่มาเปรียบเทียบขนาด ความสูง น้ำหนัก ว่าเข้าเกณฑ์การแข่งขันหรือไม่
2. ทำการชั่งน้ำหนักไก่ทั้งสองฝั่ง พร้อมลงประวัติ ลงทะเบียนให้เรียบร้อย ก่อนตกลงชน แล้วค่อยเปิดวางเดิมพันก่อนลงสนาม
3. ไก่ชนที่ลงสังเวียนจะต้องสวมนวมสวมเดือยทุกครั้งตามมาตรฐานสนามไก่ชนไทย
4. เจ้าของไก่จะต้องจัดการเข้าปากหรือเสริมปีกไก่ให้เรียบร้อยก่อนแข่งเท่านั้น
5. การแข่งขันมีทั้งหมด 5 ยก ยกละ 10 นาที พักระหว่างยก 2 นาที
6. สนามแข่งขันเป็นผู้จัดเตรียมอุปกรณ์การให้น้ำไก่และอุปกรณ์เฉพาะ ไว้ในถาดที่มุมของตัวเอง
7. ในสนามไก่ชนที่ได้มาตรฐาน จะไม่อนุญาตให้พี่เลี้ยงไก่ชนทำการถ่างตา เย็บแผลหรือไขหัวในระหว่างการแข่งขันหรือพักยกเด็ดขาด

ข้อตกลงก่อนชนไก่

เนื่องจากกีฬาไก่ชนเป็นกีฬาสัตว์ที่จะต้องมีเจ้าของเป็นผู้ควบคุมดูแลร่วมกับกรรมการ ดังนั้นจึงต้องมีข้อตกลงก่อนชนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันและลดความได้เปรียบเสียเปรียบดังนี้

• หากน้ำหนักตัวห่างกันเกิน 100 กรัม ไก่ตัวที่น้ำหนักน้อยกว่าจะได้สิทธิ์เตะอย่างอิสระตรงเวลา 10 นาที โดยถูกปิดจะงอยปากเอาไว้เพื่อให้เตะได้อย่างเดียว
• ไก่ที่ตัวสูงยิ่งกว่าจะได้เตะอย่างอิสระตรงเวลา 5 นาที
• ไก่ตัวที่เดือยยาวควรปิดเทปไว้ 2 ชั้น หากเดือยคมต้องปิดเทป 2 ชั้น
• การเตะฟรีจำกัดเวลาสูงสุด 10 นาที

ราคาต่อรองไก่ชน

การแทงไก่ชนก็เหมือนกับการแทงบอล แทงมวย ที่มีราคาต่อรองเช่นกัน โดยราคานี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างไก่ทั้งสองฝั่ง เพราะสายพันธุ์ไก่ชนจะส่งผลต่อโอกาสแพ้หรือชนะอย่างมาก เช่น ไก่พม่าขึ้นชื่อเรื่องความครบเครื่อง, ไก่ไทยเน้นตีเข้าเป้าครั้งเดียวจอด ขณะที่ไก่เวียดนามจะมีความอึดเป็นแต้มต่อ เป็นต้น

สำหรับราคาต่อรองไก่ชนสามารถไหลได้ทั้งทางบวกหรือลบ โดยเงินรางวัลจะคิดจากราคาต่อรอง x เงินเดิมพัน ยกตัวอย่างเช่น แทงไก่ฝั่งแดงที่ราคา +0.75 เป็นเงิน 100 บาท หากชนะก็จะได้เงินรางวัล 75 บาท แต่ถ้าแพ้ก็เสียเต็ม ตรงกันข้ามถ้าแทงราคา -0.9 ด้วยเงิน 100 บาท หากชนะจะได้รางวัล 100 บาท แต่ถ้าแพ้จะเสียแค่ 90 บาท เท่านั้น

วิธีแทงไก่ชน

อย่างไรก็ตามการแทงไก่ชนนั้นถือว่าค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับกีฬาประเภทอื่น โดยการวางเดิมพันนั้นเราสามารถทำได้ 3 แบบ คือ

1. Meron เป็นการแทงไก่ชนฝั่งแดง ส่วนใหญ่จะเป็นไก่ผู้ท้าชิง มีความได้เปรียบสูง หรือที่เรียกกันว่าไก่ฝั่งต่อ ด้วยความเป็นที่นิยมของนักเดิมเลยทำให้อัตราการจ่ายต่ำกว่า
2. Wala เป็นการแทงไก่ฝั่งน้ำเงิน หรือจะเรียกว่าไก่เจ้าบ้านก็ได้ ราคาต่อรองส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับปกติ ความนิยมมักจะขึ้นอยู่กับฟอร์มการต่อสู้ล่าสุดเป็นหลัก
3. BDD (Both Death Draw) เป็นการแทงว่าไก่ทั้งสองฝั่งจะหมดสภาพต่อสู้กันทั้งคู่ อัตราจ่ายจะสูงกว่ามากเพราะโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีน้อย ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1 : 8

การตัดสินแพ้ชนะ

การตัดสินแพ้ชนะในไก่ชนจะดูจาก 4 กรณี ต่อไปนี้

1. ปรับแพ้ทันที เมื่อไก่วิ่งหนีติดต่อกัน 3 ครั้ง หรือหันหลังไม่ยอมสู้
2. ตัดสินว่าแพ้น็อกเอาท์ (TKO) ทันที เมื่อไก่นอนหรือหมอบ ไม่ยอมลุกมาสู้ต่อ
3. ตัดสินว่าแพ้แบบ RSC ทันที เมื่อไก่อยู่ในสภาพที่นายสนามเห็นว่าไม่สามารถต่อสู้ได้แล้ว เช่น ปากหลุด, ปากถอด, หักปล้องอ้อย, ตาปิด, เลือดไหลเข้าตา เป็นต้น
4. ยอมแพ้โดยเจ้าของไก่ เมื่อเห็นว่าไก่ของตนไม่พร้อมหรือสู้ไม่ได้ สามารถขอยอมแพ้ได้ด้วยการโยนผ้าขาว เกมจะยุติและให้อีกฝ่ายชนะทันที

The post กติกาและราคาต่อรองไก่ชนที่ต้องรู้ก่อนเล่น first appeared on UFAZEED.COM แทงบอล UFABET เว็บพนัน คาสิโนออนไลน์.

The post กติกาและราคาต่อรองไก่ชนที่ต้องรู้ก่อนเล่น appeared first on UFAZEED.COM แทงบอล UFABET เว็บพนัน คาสิโนออนไลน์.